I like to travel and want to share my experience to the world. If you like to travel like me. Why don't you visit my blog. Let's go...
About Me
Wednesday, March 22, 2017
Tuesday, March 14, 2017
เทศกาลปู ฮูลาฮูล่า@Cuisine Unplugged Pullman Bangkok King Power
มาทำธุระที่ King Power จึงถือโอกาสทาน Dinner ที่นี่สะเลย เราเลือกห้องอาหาร Cuisine Unplugged ซึ่งขณะนี้มีบุฟเฟ่ต์อาหารทะเล โดยเฉพาะปูทั้งปูอลาสก้า ปูม้า ปูทะเล และของโปรดปราณของเราคือ เจ้าหอยนางรมสด ๆ ตัวโตๆ โดยเฉพาะจากฝั่งฝรั่งเศษ เป็นอะไรที่ชอบมากๆ รอคอยที่จะหาโอกาสมาทานหลายครั้งแล้ว วันนี้เลยขอจัดเต็มค่ะ ที่ห้องอาหารนี้เค้ามีโปรโมชั่น ดังนี้นะคะ
และราคาบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลมื้อค่ำ: ราคาสุทธิท่านละ 1,500 บาท (วันจันทร์- พฤหัสบดี) และ 1,700 บาท (วันศุกร์-อาทิตย์) เวลา: 18.00-22.30 น.ซึ่งเรามาทานวันอาทิตย์ค่ะราคาจึง 1,700 ต่อคนค่ะ และเราเลือกใช้บัตรสมาชิก คิง เพาเวอร์ค่ะเพราะจะได้ส่วนลดรวมเครื่องดื่มด้วยนะคะจองบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำออนไลน์รับส่วนลด 30% (วันจันทร์- พฤหัสบดี) และรับส่วนลด 10% (วันศุกร์-อาทิตย์) สมาชิกบัตร คิง เพาเวอร์ ทานในราคาสุดพิเศษเพียง 999 บาทสุทธิ (วันจันทร์- พฤหัสบดี) และรับส่วนลด 10% (วันศุกร์-อาทิตย์) สมาชิกบัตรแอคคอร์ พลัส รับสิทธิพิเศษตามปกติ (วันจันทร์- พฤหัสบดี) และรับส่วนลด 10% (วันศุกร์-อาทิตย์) เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีทานฟรี เด็กอายุตั้งแต่ 5-11 ปีรับส่วนลด 50% จากราคาปกติ
เมื่อได้โต๊ะจากพนักงานต้อนรับเรียบร้อย เราก็เริ่มเดินสำรวจค่ะ แน่นอนค่ะว่ามีหลากหลายเมนูให้เลือกทั้งหอยนางรม ปู กุ้ง กั้ง หรือจะโซนบาร์บีคิว และโซนอาหารญี่ปุ่น แต่มื้อนี้เราขอเน้นหนักๆ ไปที่อาหารทะเลนะคะ
มาเริ่มกันเลยดีกว่าเนอะ นี่คือเจ้าหอยนางรม Oyster มาจากหลากหลายแหล่งที่มา นางถูกนำมาจัดวางให้เลือกกันอย่างพร้อมหน้า เอาจริงๆ ถ้าไม่มีป้ายบอก เราว่านะ ไม่สามารถแยกแยะสายพันธ์ได้เลย คือมันก็หน้าตาเหมือนๆ กันหมดอ้ะ เพียงแต่หากดูให้ดีๆ จึงจะพบว่าบางตัวมีลักษณะเปลือกยาว บางตัวมีลักษณะเปลือกผอม ๆ อ้วนๆ วางใส่ถาดพร้อมเสริฟพร้อมให้เลือกชอปกันอย่างจุใจ
ในส่วนของน้ำจิ้มน้ำ ก็มีให้เลือกอีกเช่นกันค่ะ ทั้งน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบจีนแบบไทย รวมทั้งยังมีเลมอนสำหรับคุณฝรั่งที่อาจจะทานซีฟู้ดบ้านเราไม่เป็น เตรียมพร้อมไว้ให้ด้วยค่ะ แน่นอนค่ะ เราเลือกซีฟู้ดและที่ขาดไม่ได้ต้องทานคู่กับหอยนางรมนั่นก็คือหอมเจียวค่ะ มันจะสร้างความฟินแบบนัวๆ ตามคอคนไทยอย่างเราๆ นี่แหล่ะ เราอยากรู้ว่าแต่ละชนิดของเจ้าหอยนี้มันมีรสชาติต่างกันอย่างไร เราจึงทานให้ครบทุกชนิดเลยค่ะ และก็พบว่า......มันรสชาติเดียวกันหมดเลยง่า....- -"คืออร่อยเหมือนกันหมดนะคะ 5555 แต่ถ้าถามว่าที่รู้สึกว่าโดดเด้งโดนใจจริงๆ ก็คงจะเป็นเจ้าหอยนางรมสายพันธ์ Pacific Oysters นี่แหล่ะเจ้าค่ะ
ตัวมันจะยาวๆ มีเนื้ออวบๆ อยู่ติดฝา ละลายในปากไม่ละลายในมือนะเอ้อ
มาต่อกันที่พี่ปู กล้ามโตกันบ้างนะคะ งานนี้เค้าก็มีหลากหลายสายพันธ์เช่นเคย อาทิ Blue Crabs,Alaskan Crabs,Tourteaux Crabs,Thai Rock,Brown Crabs,Snow Crabs and Mud Crabs และเช่นเคย เราลองทุกชนิดเลยค่ะ ถามว่า Who win? ขอตอบตามตรงว่า Thai Rock ค่ะ
คือขอบอกตามตรงนะว่า รสชาติมันอร่อยไหม ก็อร่อยนะคะ แต่...มันเย็นชืดดดดด เย็นม้ากกกก คงเพราะต้องการให้มันสด ซึ่ง เราเคยทานแบบนึ่งร้อนๆ หรือเผาร้อนๆ แล้วเสริฟพร้อมรับทาน รสชาติมันจึงต่างกันมากค่ะ บอกตง แล้วด้วยเจ้า Thai Rock มันกล้ามโตเนื้อแน่น มันก็เลยได้ความอร่อยไปชนะเจ้าอลาสก้าไปแบบเฉียดฉิวค่ะ
และต่อมา ที่ต้องลองนะคะ ต้องลอง มีซีฟู้ดขนกันมาให้พรึ่บขนาดนี้ จะขาดเจ้านี่ไปได้อย่างไร เจ้านั่นก็คือ
กั้ง ค่ะคุณ Rock Lobsters นี่แหล่ะ คุณเห็นความสด เนื้อแน่น ไข่เต็มของมันไหมคะ เห็นเหมือนดิฉันไหม นั่นหล่ะค่ะ พระเอกของค่ำคืนนี้ มันอยู่ในโซนบาบีคิว ซึ่งต้องผ่านการปิ้งย่างก่อนรับทาน และเมื่อพร้อมเสริฟ มัน....ฟินมากกกกกกค่ะ เนื้อแน่นๆ หอมๆ ดีงามมากก ทำเอาลืมหอยนางรมและปูอลาสก้าไปเลยค่ะ จัดไปหลายตัวมากกก จนเดินไปโซนอื่นๆ ไม่ไหวแล้ว กราบขออภัยถ้ารีวิวนี้จะหยุดอยู่ตรงที่ขาดขนมหวาน เพราะเราไม่สามารถยัดอะไรลงไปในท้องเราได้อีกแว้วววค่ะ
รีวิวนี้ จึงขอจบแต่เพียงเท่านี้นะคะ อิอิ พบกันใหม่ รีวิวหน้า บายยยยยยยย
แถม...
Thursday, March 9, 2017
มาทานอาหารอินเดียกันค่ะ ที่ PUNJAB GRILL @RADISSON SUITES BANGKOK Sukhumvit
ปกติ ส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบทานอาหารอินเดีย ด้วยกลิ่นที่ไม่คุ้นเคย จึงอิดออดที่จะเลือกทานอาหารอินเดียมาโดยตลอด..... จนกระทั่ง บอสสาวสวยของดิฉันแนะนำว่าก่อนจะบอกว่าไม่ชอบอาหารอินเดีย เธอควรลองไปทานที่ Punjab Grill โรงแรมเรดิสัน สุขุมวิทก่อน
แล้วค่อยมาบอกนางว่า ชอบหรือไม่ชอบอาหารอินเดียจริงๆ ! เอาค่ะ ไปก็ไป.. ลองดูกันอีกครั้ง
เมื่อมาถึงร้านอาหารอยู่ในส่วนของโรงแรมค่ะ อยู่ชั้นที่ 1 เลย เดินเข้าประตูมาได้เลยไม่สับซ้อนอะไร บรรยากาศของร้านตกแต่งไว้อย่างสวยหรู มีสไตล์ค่ะ สำหรับบรรยากาศถือว่าผ่านค่ะ
พนักงานมาแทคแคร์ ใส่ชุดสาหรีดูสวยและมีเสน่ห์ เข้ามาสอบถามด้วยความสุภาพและพาไปนั่งค่ะ
พอนั่งปุ๊ป ก็มี Complimentary appetizer ยกมาเสริฟเลยค่ะ คือ Papadum แผ่นแป้งบางๆกรอบๆ ทำมาจากถั่ว Lentil บด พอลองแล้วติดใจเลยล่ะค่ะ เพราะรสออกเค็มๆ และมีซอสให้เลือกจิ้มได้ 3 ชนิด ดิฉันทดลองทุกชนิดเลยค่ะ - -"
ชนิดแรกคือ Mint & Coriander รสออกเปรี้ยวๆเผ็ดๆหอมกลิ่นสะระแหน่และผักชี
ชนิดที่สองคือ Mango Chutney รสออกหวานๆ
และสุดท้าย ถือว่าเป็น My favorite เลยค่ะ นั่นคือ Cheese ที่ใช้ชีสจากนมแพะรสออกเค็มๆ กลมกล่อม อร่อยนัว ถูกใจมากค่ะ
มากันที่ Main Course ดิฉันทดลองสั่ง Lamb Rogan Josh ซี่โครงแกะอบไฟ เอิ่ม...ขอบอกว่า พระเจ้าจอร์ด มันย๊อดดดม๊ากกก คือเนื้อเจ้า Lamb ร่วนแกะง่าย ได้กลิ่นของเนื้อแกะที่คลุกเคล้ามากับเครื่องเทศได้ลงตัว
นำมาเสริฟ 3 ชิ้น ดิฉันจัดการอย่างรวดเร็วไป 2 ชิ้น ในพริบตาค่ะ ^ ^ เมนูต่อมาคือ เนื้อปลาแซลมอนค่ะ (แอบจำชื่อเมนูมิได้ กราบขออภัยค่ะ) แต่จำรสชาติได้แม่นเลยค่ะ เพราะนุ่มลิ้น ละลายในปาก มีความกลมกล่อมอร่อยมากค่ะ
นั่งทานอาหารไปสักพัก จิบไวน์เบาๆ เคล้าเสียงเพลงจากนักร้อง ขอบอกว่า นางร้องเพราะมากค่ะ
จากนั้นแอบหันไปเห็น กลุ่มคนหนึ่งกลุ่มมุงดูอะไรกันอยู่ พยายามวิ่งไปค่ะ แต่ไม่ทัน ขาสั้นไปนิด... ได้แต่เก็บรูปมาฝากไกล ๆ เท่านั้นแต่ได้ทราบว่า เป็นการโชว์การทำแป้งจากเตาถ่านค่ะ ว๊าววว เตามันใหญ่มากกกก
เชฟที่นี่น่ารักนะคะ เดินมาทักทาย ถามว่าอยากดูไหม เห็นวิ่งไปไม่ทัน จะสาธิตให้ดูใหม่ 555+ เราแอบเกรงใจ จึงบอกไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากค่ะ จริงๆ คือเริ่มมึนๆ ไวน์แล้วต่างหาก 5555
มาที่นี่ถ้าไม่สั่ง เมนูไฮไลท์ ถือว่ามาไม่ถึง Punjab Grill นะคะ เมนูนั้นคือ...Chocolate Sphere ค่ะ แถมมีลูกเล่นให้ดิฉันตื่นเต้น แถมกี้สกร๊าดเบาๆ ด้วยนะคะ คือราดด้วย Cointreau เหล้าหวานกลิ่นส้มที่จุดไฟค่ะ แม่เจ้า พอไฟหมอด ชอคโกแลตดิฉันละลายเผยให้เห็นว่ามีไอศกรีมอยู่ข้างใน
ไม่ต้องบอกนะคะ ว่าเริ่ดแค่ไหน..
เอาเป็นว่า คนไม่ชอบทานอาหารอินเดีย กลับติดใจจนจะไปอีกเร็วๆ นี้ค่ะ
แล้วพบกันรีวิวหน้าค่ะ
บายยยยย
Subscribe to:
Posts (Atom)